ประวัติพ่อท่านเจ้าฟ้า วัดท่าเรือ
พระรูปหล่อปั๊ม พ่อท่านเจ้าฟ้า วัดท่าเรือ
วัดท่าเรือ หรือวัดปัฏนาราม ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลท่าเรือ อำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นวัดเก่าแก่ จากหลักฐานคือใบเสมาหินทราย ซึ่งเป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย และอิฐก้อนใหญ่ ซึ่งเป็นอิฐสมัยศรีวิชัย มีขนาดใหญ่กว่าปัจจุบันมาก กว้างประมาณ 15 ซม. หนาประมาณ 10 ซม. (ใหญ่) กว่านี้จะเป็นอิฐสมัยอยุธยา
แต่ถ้ายึดใบเสมาสันนิษฐานว่าอายุการสร้างอย่างต่ำวัดนี้คงสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย
ส่วนพระอุโบสถนั้นสร้างประมาณ ปี พ.ศ. 2510 กว่าๆ โดยหลังเดิมนั้นเป็นไม้ผุพังไปหมดแล้ว หลังใหม่ได้สร้างที่โบสถ์หลังเก่า สำหรับพระพุทธรูปในโบสถ์เป็นสมัยอยุธยาศิลปะภาคใต้
ประวัติ พลวงพ่อท่านเจ้าฟ้านั้น ผมสืบหาก็ได้มาเพียงเล็กน้อย ทราบเพียงว่าหลวงพ่อได้ธุดงค์มาจากพัทลุง มาพร้อมกับหลวงพ่อวัดปลายราง
หลวงพ่อวัดปลายรางนั้นเก่งทางนั่งแพบกคือ ผูกแพยนต์แล้วนั่งไปมา บนบกคล้ายกับในน้ำ โดยเป็น วิชาของสายเขาอ้อ ซึ่งหลวงพ่อนุ้ย วัดม่วง ท่าฉาง ก็ได้ไปร่ำเรียนจากเขาอ้อ แล้วก็ทำได้เช่นกัน
หลวงพ่อท่านเจ้าฟ้า นั้นเก่งในด้านอาคมหลายชนิด โดยมีครั้งหนึ่ง ช้างของหลวงพ่อวัดปลายรางหลายเชือกหลุดออกมาจนถึงวัดท่าเรือท่านจึงเอา กะลาครอบช้างไว้คล้ายกับวิชาที่หลวงพ่อวัดมะขามเฒ่าและวิชาย่อของให้เล็กลงของหลวงพ่อนุ้ยเช่นกัน
ทำให้มั่นใจว่า หลวงพ่อเจ้าฟ้านั้นต้องเป็นศิษย์เขาอ้อแน่นอนทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล่ากันเป็นเหตุการณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์
ที่มาของนามพ่อท่านเจ้าฟ้า
มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อหลวงพ่อมาถึงบ้านท่าเรือในอดีตนั้น มีผู้คนที่นับศาสนาอื่นอยู่ ผู้ชายคนหนึ่งได้หัวเราะ และว่ากล่าวพระท่านจึงบอกว่า อย่าทำเช่นนั้นเลยมันบาปเดี๋ยวฟ้าจะผ่าเอา เพียงเท่านั้น ฟ้าก็ผ่าคนนั้นตายทันที ทำให้ผู้คนหันมานับถือท่านและเรียกนามท่าน “พ่อท่านเจ้าฟ้า” หลังจากนั้นท่านก็ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือชาวรักษาชาวบ้านแม้มีโรคระบาด ท่านก็จะปัดเป่ารักษาให้เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้าน แม้ท่านจะมรภาพมานานแล้วแต่เรื่องรักษาโรคนี้ก็ยังเป็นที่กล่าวขานกันจนทุกวัดนี้ มีการบนบานต่อรูปบูชาท่านที่วัดก็มักจะหายจากโรค หากมีภัยใดๆ ก็จะเข้าทรงบอกกล่าวชาวบ้านให้เตรียมตัวระวังและรักษาโรคให้ นี่คือคำบอกเล่ากันมา
มูลเหตุการณ์สร้างรูปหล่อปั๊มพ่อท่านเจ้าฟ้า
ประมาณปี 2505 บางท่านก็บอกหลังปี 05 ก็คงประมาณ 08 ก็คงไม่ยุติ หลวงพ่อท่านเจ้าฟ้าได้ประทับทรงให้สร้างขึ้นเพื่อให้ลูกหลาน ชาวพุทธได้ไว้ป้องกันตัวป้องกันภัยโรคต่างๆ โดยให้สร้างสร้างตามรูปปูนปั้นของท่านและบอกให้ไปดูด้านหลังจะมียันต์โดยให้ใช้ยันต์ตามที่ท่านให้นิมิตขึ้น (ทั้งๆ ที่รูปบูชาของท่านด้านหลังไม่มียันต์นะครับ)
การสร้างให้สร้างขึ้นสองครั้งและละครั้งให้สร้างตามจำนวนที่พระอรหันต์ได้มาชุมนุมในวันอาสาฬหบูชาโดยมิได้นัดหมาย คือ 1250 รูป เพราะฉะนั้น รูปหล่อรุ่นแรกนี้คงจะสร้าง 1250 องค์ เพราะในการประทับทรงบอกว่าท่านสามารถแบ่งภาคให้ได้ ครั้งละเท่านั้น และให้สร้างสองครั้ง รวมกันสองครั้งก็ 2500 องค์
พร้อมบอกว่าถ้าต้องการให้ช่วยเหลือก็ให้เอารูปหล่อนี้มาอธิษฐาน และเอ่ย พ่อท่านเจ้าฟ้า ท่าเรือ ก็จะช่วย
แล้วจะดูอย่างไรว่าเป็นรุ่นหนึ่งหรือรุ่นสอง มีบางคนบอกว่ารุ่นแรกเก๊บ้างและก็มีอีกหลายคนว่ารุ่นสองเก๊ ไอ้แบบนี้เขาว่ารู้ไม่จริง แล้วจะพูดไปทำไหม ยุคนี้เป็นยุคข่าวสาร อำเภอบ้านนาเดิม เดี่ยวนี้ขับรถยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว แต่ก็มีอีกไม่น้อย ยังสับสนระหว่างรุ่นแรกกับรุ่นสอง เพราะสร้างห่างกันไม่กี่ปีเนื้อก็เหมือนกัน ทว่าพอมีข้อแตกต่างกันบ้างคือ
1. เศียรหลวงพ่อ รุ่นแรกจะเล็กใบหน้าจะดูยาว กว่ารุ่นสอง
2. ด้านหลังขอบข้างจะมีตะเข็บจากการปั๊มมาก รุ่นสองแทบจะไม่มีตะเข็บรอยปลิ้นนี้
3. เนื้อ รุ่นแรกจะมีรอยรานรอยแยกในเนื้อทุกองค์มากบ้างน้อยบ้างเป็นรอยปริตามแนวดิ่งทุกองค์ส่วนรุ่นสองจะไม่มีเลยเนื้อผิวจะเรียบตึงดี
4. ฐานรุ่นแรก ฐานจะตั้งแล้วมักจะเอียงไปหลังแทบทุกองค์มากบ้างน้อยบ้าง ส่วนรุ่นสองตั้งแล้วจะตรง