ประวัติ พระพุฒาจารย์ (มา อินฺทสโร) วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร
พระพุฒาจารย์ นามเดิม มา หรือที่รู้จักในนามท่านเจ้ามา เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะอรัญวาสี อดีตเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร
ประวัติ
พระพุฒาจารย์ มีนามเดิมว่า มา เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2380 ตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 10 ปีระกา ถึงปีระกา พ.ศ. 2401 ได้บวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดจักรวรรดิราชาวาส โดยพระอาจารย์นองเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า อินฺทสโร ได้ศึกษาวิปัสสนาธุระแล้วออกจาริกธุดงค์แทบทุกปี แล้วกลับมาเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาอยู่ที่วัดจักรวรรดิราชาวาส
สมณศักดิ์
พ.ศ. 2413 เป็น พระปลัดมา ฐานานุกรมในพระวรญาณมุนี (เส็ง)
13 พฤษภาคม พ.ศ. 2432 ตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูภาวนาวิจารณ์ ผู้ช่วยกิจการในวัดจักรวรรดิราชาวาส มีนิตยภัตเดือนละตำลึง 2 บาท ได้รับพระราชทานไตรผ้าสลับแพร ตาลปัตรพุดตานหักทองขวาง พัดรองโหมด ย่ามอัตลัด บาตรถุงอัตลัด กระโถนขันน้ำถมปัด เป็นเครื่องยศอย่างพระครู
17 มีนาคม พ.ศ. 2435 เลื่อนเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่แขวงเมืองสมุทรปราการที่ พระมงคลทิพยมุนี ศรีชลังคันตรีปเทศ เขตรสมุทรปราการ อภิบาลพุทธคยาปทวี ชลคิรีไทวปสีมาบพิตร มีนิตยภัตเดือนละ 3 ตำลึง ได้รับพระราชทานตาลปัตรแฉกหักทองขวาง พัดรองตราแผ่นดิน พัดรองโหมด ย่ามหักทองขวาง ย่ามเข้มขาบ บาตรถุงเข้มขาบ ฝาบาตรเชิงบาตรมุก กระโถนกาน้ำถมปัด เป็นเครื่องยศ
ได้รับพระราชทานตาลปัตรแฉกประดับพลอยและเพิ่มนิตยภัตเสมอพระราชาคณะชั้นเทพ
16 มีนาคม พ.ศ. 2448 ได้รับพระราชทานพัดแพร เพิ่มนิตยภัตเป็นเดือนละ 7 ตำลึง เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม
30 ธันวาคม พ.ศ. 2455 เลื่อนเป็นเจ้าคณะรอง ได้รับพระราชทานพัดแฉกพื้นโหมดสลับแพร เพิ่มนิตยภัตเป็นเดือนละ 30 บาท[6]
30 ธันวาคม พ.ศ. 2456 ได้รับสถาปนาเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ เจ้าคณะอรัญวาสี เสมอเจ้าคณะรอง มีนามจารึกในหิรัญบัฏว่า พระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา วิสุทธศีลจรรยาสมบัติ นิพัทธธุตคุณ ศิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกคณิศราธิการ อภิบาลบทวลัญช์ อรัญวาสี สังฆนายก
มรณภาพ
พระพุฒาจารย์ อาพาธเป็นลม มรณภาพเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2457 ปีขาล[8] สิริอายุได้ 77 ปี 28 วัน ได้รับพระราชทานโกศแปดเหลี่ยมเป็นเกียรติยศ
วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2458 เคลื่อนโกศศพจากกุฏิไปตั้งเหนือแว่นฟ้า 2 ชั้นที่เมรุน้อยในวัดจักรวรรดิราชาวาส ถึงวันที่ 2 พฤษภาคม เวลาบ่าย 5 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาพระราชทานเพลิงศพ