ประวัติ หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ มีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าทัด ประสูติเมื่อวันพุธ แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีมะเมีย[1] ตรงกับวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2365 เป็นพระโอรสในพระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหลวงเสนีบริรักษ์ กับหม่อมบุญมา
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หม่อมเจ้าทัดได้ผนวชเป็นสามเณรที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วไปเล่าเรียนกับพระมหาโต ที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร จนอายุครบอุปสมบทในปี พ.ศ. 2385 จึงผนวชเป็นภิกษุที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมเด็จพระอริยวงษญาณ (ด่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาโตเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วไปประทับที่วัดระฆังโฆสิตารามตามเดิม
พ.ศ. 2392 ได้สอบพระปริยัติธรรมซึ่งจัดที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ได้เป็นเปรียญธรรม 3 ประโยค ถึงปี พ.ศ. 2404 ได้สอบอีกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้เพิ่มอีก 4 ประโยค รวมเป็นเปรียญธรรม 7 ประโยค
พ.ศ. 2407 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะที่ หม่อมเจ้าพุทธุปบาทปิลันทน์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2415 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่มรณภาพ[2]
พ.ศ. 2430 เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่ หม่อมเจ้าพระพุทธุปบาทปิลันธน์พระธรรมเจดีย์ กระวีวงษนายก ตรีปิฎกบัณฑิตย มหาคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[3] ต่อมาย้ายไปครองวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และว่าการคณะกลาง[4]
พ.ศ. 2435 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองฝ่ายเหนือที่ หม่อมเจ้าพระพิมลธรรม์ มหันตคุณ วิบุลปรีชาญาณนายก ตรีปิฎกคุณาลังการภูษิต อุตรทิศคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[5]
พ.ศ. 2437 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะอรัญวาสีและเจ้าคณะใหญ่คณะกลางที่ หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา สัปตวิสุทธิจริยาสมบัติ นิพัทธธุตคุณ สิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกมหาปรินายก ตรีปิฎกโกศล วิมลมัชฌิมคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญญวาสี[6]
หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์สิ้นชีพิตักษัยด้วยพระโรคชรา เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 7 ปีชวด ตรงกับวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2443 เวลาบ่าย 2 โมงเศษ สิริชันษา 77 ปี 244 วัน ได้รับโกศไม้สิบสองประกอบศพ[7] ได้รับพระราชทานเพลิงศพพร้อมกับสมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444